วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

ประวัติคุณยายอาจารย์

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง ผู้เป็นหนึ่งไม่มีสอง

     คุณยายอาจารย์ เกิดในครอบครัวชาวนา ที่อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 9 คน ของพ่อพลอย และแม่พัน คุณยายเป็นคนขยันและอดทน ช่วยพ่อแม่ดูแลงานบ้านและเป็นเรี่ยวแรงหลักในการทำนา เมื่อคุณยายอายุได้ 26 ปี (พ.ศ. 2478) ท่านตัดสินใจออกจากบ้าน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาฝึกสมาธิ(Meditation)ที่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้พบและฝึกสมาธิกับคุณยายทองสุก สำแดงปั้น ซึ่งเป็นครูสอนสมาธิ จากวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วใช้วิชชาธรรมกายตามหาพ่อ ได้ขอขมาและช่วยพ่อขึ้นจากนรกได้

       จากนั้นคุณยายทองสุกได้พาคุณยาย ซึ่งตอนนั้นอายุได้ 29 ปี (พ.ศ. 2481) ไปกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) เมื่อหลวงพ่อพบคุณยายครั้งแรก ท่านก็รับคุณยายเป็นศิษย์ และให้เข้าศึกษาวิชชาธรรมกายชั้นสูงในโรงงานทำวิชชาทันที
     ด้วยความวิริยะอุตสาหะ และความเป็นคนทำอะไรทำจริงของคุณยาย ทำให้ท่านศึกษาวิชชาธรรมกายได้อย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญยิ่ง จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าเวรในการทำวิชชา และได้รับคำชมจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญว่า “ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง”
        หลังจากหลวงพ่อปากน้ำมรณภาพไปแล้วคุณยายก็ไม่ได้ทิ้งเจตนารมณ์ในอันที่จะถ่ายทอดวิชาธรรมกายไปสู่ชาวโลกแม้จะรู้ตัวว่าไม่รู้หนังสือเลยจะไปสอนใครได้แต่ในความเชื่อมั่นในธรรมะของพระพุทธองค์คุณยายไม่ย่อท้อได้มั่นฝึกฝนตกเองและรับหน้าที่เผยแผ่วิชาธรรมกายเรื่อยมา มีลูกศิษย์ผู้ใฝ่ธรรมขอเข้ารับการศึกษาจากท่านจำนวนมากในที่นี้รวมถึง นักเรียนไชยบูรย์ สุทธิผล (พระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย) จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ในเวลาต่อมาก็พา รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้อง มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย  ทำให้บ้านธรรมประสิทธิ์ที่ใช้ฝึกปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ำคับแคบลงถนัดใจ

พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
     “สมัยแรกๆ ยายก็ไม่ได้คิดจะสร้างวัด อยู่วัดปากน้ำหลวงพ่อธัมมะฯ เนี่ย ท่านก็เรียนอยู่สวนกุหลาบท่านก็เดินไปหายายบอกว่ายายอยากจะบวชจังเลยยายก็บอกว่าคุณเหรอจะบวชถ้าคุณจะบวชคุณต้องเรียนจบปริญญาก่อนถึงจะบวชให้ หลวงพ่อธัมมะฯก็เข้ามหาวิทยาลัยเกษตรได้หลวงพ่อธัมมะฯ ก็ไปเอาหลวงพ่อทัตตะฯ มาอีกคนหนึ่งหลวงพ่อทัตตะฯ ก็โอ้โฮ...วิชาเดียรัจฉาน นี่เรื่องจริงนะวิชาเดียรัจฉานเต็มตัวหมดเลยกว่าจะห้ำหั่นสององค์นี่ลงสองคนนี่ได้เกือบตาย” คุณยายกล่าว  
        ต่อมาเมื่อท่านไชยบูรณ์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วก็เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งทำให้ท่านศึกษาธรรมะที่ละเอียดลึกซึ่งและได้รับการฝึกฝนอบรมจากคุณยายอย่างดีเยี่ยม เมื่อรวบรวมคณะศิษย์ได้กลุ่มหนึ่งแล้วท่านก็ปรารถนาจะขยายวิชาธรรมกายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง ผู้เป็นหนึ่งไม่มีสอง

      “ยายก็คิดว่าเราต้องหาแผ่นดินซักแห่ง ยายก็คิดได้ให้คนไปขอแผ่นดิน ขอ 50 ไร่ เขายกให้หมดผืนเลยจ๊ะ ยายก็ส่งหลวงพ่อทัตตะฯ เนี่ยมาก่อนมาเฝ้าแผ่นดินนี่ไว้ พอวันเสาร์ยายก็ขึ้นรถมาทุ่งนาเนี่ย ทุกเสาร์ ทุกเสาร์ เป็นทุ่งนานะ สร้างวัดใหม่ๆ เป็นทุ่งนาเลย ไม่มีอะไรเลยเกือบตายกว่าจะเอาวัดลง  พอจะสร้างวัดได้เหนื่อยจังเลย ยายนี่เหนื่อยจังเลยจนเป็นโรคขาดอาหาร สมัยแรกๆนะ เช้ามากินข้าวแล้ว ต้องนั่งธรรมะ ถึง 5 โมงกลางวัน พอ 5 โมงกลางวันแล้วทำไง! ลงช่วยเขาปลูกต้นไม้ 5 โมงเย็นก็อาบน้ำอาบท่าขึ้นมานั่งธรรมะไปถึง 4 ทุ่มถึงจะได้นอน สมัยนั่นคนเขาไม่ได้ศรัทธาพระยายเลย เขาศรัทธายายมาก ยายก็ไปบอกบุญคนนั้น บอกบุญคนนี้ให้เขามาช่วย มาช่วยทางสร้างกุฏิบ้างมาช่วย สร้างครัวบ้างแล้วก็วางแผนไม่ให้พระเราออกบิณฑบาต  พระในวัดนี่นะมาใหม่ๆนะไม่ให้ออกบิณฑบาตจะหุงข้าวเลี้ยงเอง  ทำมาอยู่มาอยู่มายายเหนื่อยมากๆเข้า ยายก็ไม่มีแรงเดินไม่ไหวแล้วเขาก็เอาพวกหมอจุฬามาตรวจเขาบอกไม่มีโรคอะไร โรคขาดอาหาร ยายนะทำงานหนักมามากที่สุด” คุณยายกล่าว

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง

        ด้วยดวงใจที่เด็ดเดี่ยวกล้าแกร่งกว่าเพชรด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของยายที่ได้วางกฎระเบียบต่างๆในการบริหารวัดช่วยปูพื้นฐานให้หมู่คณะเป็นปึกแผ่นและคอยให้กำลังใจแก่ศิษย์มาโดยตลอดทำให้ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาเป็นวัดพระธรรมกายที่มีระบบระเบียบงดงามยิ่งเป็นศรีสง่าแห่งพระพุทธศาสนาและเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ชาวโลกทั้งหลาย
http://peaceinmind1.blogspot.com/2016/03/un.html
 ขอบคุณข้อมูลจาก http://goo.gl/V6OmwG

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น