วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

ไม่รีบขวนขวายเมื่อยังหนุ่มยังสาวอยู่ แล้วจะรอไปเมื่อไร ?

ยายต้องเอาชีวิตเข้าแลก !! กับการสร้างศูนย์พุทธจักรฯ 

  กว่าจะสร้างเสร็จ พอเกือบเสร็จยายก็ล้มเจ็บ เจ็บคราวนี้แทบเอาชีวิตไม่รอด ยายต้องเอาตัวเองเหมือนกับจุ่มอยู่ในบุญตลอดเวลา ถึงรอดได้ ! ถ้าเป็นผู้เฒ่าคนอื่น คงเป็นขี้เถ้าไปแล้ว ตอนนี้ยายก็หายแล้ว แต่ก็สบายแบบคนแก่นะแหละ
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖

ชีวิตเราเกิดมาคนเดียว ตายก็คนเดียว !!  


เมื่อตัวเราเองยังเอาตัวเองไม่รอด ยังไม่มีที่ยึดที่เกาะแน่นอน ก็แสดงว่าตัวเรายังไม่แน่จริง อาจจะเสียที พญามาร เมื่อไรก็ได้


เกิดมาแล้ว  พบพระพุทธศาสนาแล้ว พบวิชชาที่สำคัญ และมีประโยชน์ที่สุดแล้วยังไม่รีบขวนขวายเมื่อยังหนุ่มยังสาวอยู่ แล้วจะรอไปเมื่อไร

 เมื่อแก่แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เรายังไม่รู้แน่ว่าจะตายเมื่อไร เกิดปุบปับตายไปมิตกนรกหรือ?

ไม่กลัวว่าเกิดมาแล้วจะเป็นโมฆะหรือ? ไม่เสียดายเวลาหรอกหรือ? 


ชีวิตนี้เกิดมาสร้างบารมี บุญที่ได้เพิ่มขึ้น ก็รักษาให้ดี  มีแต่บุญเท่านั้นที่จะช่วยเราได้


บุญละเอียดเป็นบุญที่สำคัญมาก เรายังทำบุญละเอียดน้อยอยู่ แล้วเราจะหวังอะไรกับชีวิต


ถ้าเกิดมาครั้งนี้เพื่อให้เป็นโมฆะ แล้วจะเกิดมาทำไม? เห็นแก่คุย  เห็นแก่เล่น เสียเวลาเปล่าๆ  เราได้อะไรบ้าง? 


ลองนึกดูก็จะรู้ว่า  เราขาดทุนหรือกำไร ระวังเอาไว้ บุญต้องรักษาให้ดี ถ้ารักษาไม่ดี  ไม่นึกถึง  
ไม่เอาใจใส่  บุญก็น้อย บุญก็ไม่หลั่งไหลมา

ถ้าเรานึกไว้เรื่อย  บุญก็ส่งต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อนาคตเราจะหวังอะไรอีกหวังความงามในรูป  เสียง  กลิ่น รส  สัมผัส  อย่างนั้นหรือ? 


จงคิดให้ดีก่อน ก่อนที่จะทำอะไรลงไป ผิดแล้วจะแก้ไม่ทัน นอกจากจะทำใหม่


#ขุมทรัพย์ล้ำค่าจากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2518


🌟อธิษฐานล้อมคอก🌟


คุณยายสอนเสมอว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ต้องอธิษฐานล้อมคอกไว้ให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง

  ขอให้หูดี ตาดี โรคภัยไข้เจ็บไม่มี ให้อาการ ๓๒ ครบบริบูรณ์ ขอให้ได้เกิดเป็นชาย ได้เพศบริสุทธิ์ ไม่หลงใหล ในเพศตรงข้าม ไม่ยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ของเพศตรงข้าม

  ก่อนตายขอให้มีสติ ให้มีบุญบารมีมาก ๆ ทุกภพทุกชาติ ให้พบแต่คนดี ๆ ว่านอนสอนง่าย

  ปลูกต้นไม้ก็ให้อธิษฐาน ให้ต้นไม้ทุกต้นที่เราปลูกนี้เจริญงอกงาม ให้ความร่มเย็นเป็นสุข ใครมานั่งใต้ร่มไม้นี้ ก็ให้เห็นธรรมะ ให้จักรพรรดิลงรักษา นกกามาจับ เราก็ได้บุญ

ตอนนอน ก็อธิษฐานอยู่ในองค์พระตลอดเวลา พระจะได้คุ้มครองรักษา มีอะไรเกิดขึ้นเราก็ปลอดภัย

๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๐
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย

🍀 http://line.me/ti/p/%40jai.yut.24nor หรือที่ Line ID : @jai.yut.24nor

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทำไมต้องหล่อรูปเหมือน..คุณยายอาจารย์ ด้วยทองคำ!


      สถานการณ์ปัจจุบันนี้หลายๆ คนก็คงมีคำถามในใจว่า... เราจะฝ่ากองอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไปได้อย่างไร ?

ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก … พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะสู้กันอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมา เราก็สู้ทุกรูปแบบ
แต่ว่า…แบบที่สู้แล้วต้องชนะขาดไปเลยนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร !!!

     แต่หลวงพ่อท่านทราบ…ว่าต้องทำอย่างไร? …ในภาวะเหตุการณ์เช่นนี้ !!!  "งานหล่อทองคุณยายจึงเกิดขึ้น" 
"ผังสำเร็จ" ศึกครั้งนี้จะต้องรอด ต้องชนะเท่านั้น!!!
      คุณยายท่านพร้อม!!! ท่านลงมาคุมเต็มที่ … งานนี้หลวงพ่อจึงต้องอัญเชิญคุณยายลงมาเป็น "แม่ทัพ" ให้เรา

สร้างบุญถึงที่สุด  แล้วจะเป็นผู้ชนะ
ถ้าเราอยู่ในธรรม  เราดูคนทางธรรมให้ออก แล้วเราก็จะสามารถดูคนทางโลกออกได้ไม่ยากเลย  เพราะโลกหยาบกว่าธรรม ถ้าเรายังไม่สามารถทำได้ในชาตินี้ ในขณะที่เราต่อสู้ถึงที่สุดแล้ว ก็ให้คิดว่าชาติต่อไปเราต้องชนะ เราต้องชนะให้ได้ แล้วสร้างบุญในชาตินี้ให้มาก  ให้หนักกว่าเดิม ให้แก้ไขที่ตัวเราเอง ให้สร้างบุญ สร้างความบริสุทธิ์กาย  วาจา  ใจ  ในตัวเราให้ หนักยิ่งขึ้น แล้วเราจะเป็นผู้ชนะ

25 พฤศจิกายน พ.ศ.2522


        ในวาระวันคุ้มครองโลกวันศุกร์ที่  22 เมษายน พ.ศ. 2559 ที่จะถึงนี้ เป็นวันครบ 6 รอบ หรือ 72 ปี ของคุณครูไม่ใหญ่ ซึ่งคุณครูไม่ใหญ่ได้ตั้งใจจะเอาบุญใหญ่ บูชาธรรมคุณยายอาจารย์ฯ ด้วยการหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายฯ ขนาดเท่าครึ่งขององค์จริง เพื่อประดิษฐาน ณ อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งกำลังจะสร้างแล้วเสร็จในไม่ช้านี้
 

      โดยจะมีพิธีหล่อรูปเหมือนของท่านในสภาธรรมกายสากล ซึ่งนับจากวันนี้เป็นต้นไป ก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนลูกหลานคุณยายทั่วโลกมาเอาบุญใหญ่นี้ด้วยกัน
 
        ส่วนรายละเอียดที่มากกว่านี้จะเป็นอย่างไร โปรดสอบถามผู้ประสานงานที่ท่านสังกัด

  อานิสงส์การทำบุญด้วยทองคำจากพระไตรปิฎก
        1. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวายแผ่นอิฐทองคำเพื่อทำเป็นฐานเจดีย์สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ พระมหากัจจายนะ มีผิวพรรณวรรณะละเอียดผุดผ่องดังทองคำ

       2. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวายอาสนะแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วย ทองชมพูนุทอันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่ประทับของพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้พระมหากัจจายนะ (ภพชาติในอดีต) ได้ไปเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบไกลถึง 100 โยชน์ ได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธิ์มากมีรัตนะ 8 ประการ สว่างโชติช่วงทั้งกลางวันกลางคืนประดุจดวงอาทิตย์อุทัย และเวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิเป็นเวลาที่ยาวนาน

        3. ด้วยอานิสงส์ที่ทำหม้อดอกไม้ทองคำ 3 ใบ ไปบรรจุไว้ในเจดีย์ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อกราบขอขมาและระลึกถึงคุณของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ชฎิลเศรษฐี เป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล มีภูเขาทองคำสูง 80 ศอก เกิดขึ้นหลังบ้าน

       4. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวายบัลลังก์ทอง 1 แสนตัว แด่พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อรับรองภิกษุถึง 1 แสนรูป ส่งผลให้ภพชาติในอดีตของพระภัททิยเถระ ได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช 74 ครั้ง เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพสุธา 1,000 ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 51 ครั้ง เกิดในตระกูลสูงสมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติและรูปสมบัติอันเลิศ ได้บวชและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
   
     5. ด้วยอานิสงส์ที่ปลดเครื่องประดับทองคำจากคอ แล้วมอบให้ช่างทองนำไปทำอิฐ ทองคำเพื่อสร้างเจดีย์ทองคำสูง 1 โยชน์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้อุบาสิกาเสสวดี ละโลกแล้วไปเกิดในสวรรค์ยาวนานถึง 1 กัป มีวิมานทองที่สว่างไสวใหญ่โตวิจิตรตระการตา
    
     6. ด้วยอานิสงส์จากการถวายแผ่นอิฐทองคำ สร้างเจดีย์บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าส่งผลให้ไปตัดรอนวิบากกรรมเก่าของ พระภัททกาปิลานีเถรี ที่มีกลิ่นตัวเหม็นเหมือนส้วมให้กลับกลายเป็นมีกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกาย และมีกลิ่นดอกบัวออกจากปาก ในภพชาติสุดท้ายพระภัททกาปิลานีเถรีได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เถรี ผู้เป็นเลิศในด้านเป็นผู้มีความสามารถในการระลึกชาติได้เป็นเยี่ยม
  

ประวัติคุณยายอาจารย์

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง ผู้เป็นหนึ่งไม่มีสอง

     คุณยายอาจารย์ เกิดในครอบครัวชาวนา ที่อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 9 คน ของพ่อพลอย และแม่พัน คุณยายเป็นคนขยันและอดทน ช่วยพ่อแม่ดูแลงานบ้านและเป็นเรี่ยวแรงหลักในการทำนา เมื่อคุณยายอายุได้ 26 ปี (พ.ศ. 2478) ท่านตัดสินใจออกจากบ้าน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาฝึกสมาธิ(Meditation)ที่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้พบและฝึกสมาธิกับคุณยายทองสุก สำแดงปั้น ซึ่งเป็นครูสอนสมาธิ จากวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วใช้วิชชาธรรมกายตามหาพ่อ ได้ขอขมาและช่วยพ่อขึ้นจากนรกได้

       จากนั้นคุณยายทองสุกได้พาคุณยาย ซึ่งตอนนั้นอายุได้ 29 ปี (พ.ศ. 2481) ไปกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) เมื่อหลวงพ่อพบคุณยายครั้งแรก ท่านก็รับคุณยายเป็นศิษย์ และให้เข้าศึกษาวิชชาธรรมกายชั้นสูงในโรงงานทำวิชชาทันที
     ด้วยความวิริยะอุตสาหะ และความเป็นคนทำอะไรทำจริงของคุณยาย ทำให้ท่านศึกษาวิชชาธรรมกายได้อย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญยิ่ง จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าเวรในการทำวิชชา และได้รับคำชมจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญว่า “ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง”
        หลังจากหลวงพ่อปากน้ำมรณภาพไปแล้วคุณยายก็ไม่ได้ทิ้งเจตนารมณ์ในอันที่จะถ่ายทอดวิชาธรรมกายไปสู่ชาวโลกแม้จะรู้ตัวว่าไม่รู้หนังสือเลยจะไปสอนใครได้แต่ในความเชื่อมั่นในธรรมะของพระพุทธองค์คุณยายไม่ย่อท้อได้มั่นฝึกฝนตกเองและรับหน้าที่เผยแผ่วิชาธรรมกายเรื่อยมา มีลูกศิษย์ผู้ใฝ่ธรรมขอเข้ารับการศึกษาจากท่านจำนวนมากในที่นี้รวมถึง นักเรียนไชยบูรย์ สุทธิผล (พระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย) จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ในเวลาต่อมาก็พา รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้อง มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย  ทำให้บ้านธรรมประสิทธิ์ที่ใช้ฝึกปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ำคับแคบลงถนัดใจ

พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
     “สมัยแรกๆ ยายก็ไม่ได้คิดจะสร้างวัด อยู่วัดปากน้ำหลวงพ่อธัมมะฯ เนี่ย ท่านก็เรียนอยู่สวนกุหลาบท่านก็เดินไปหายายบอกว่ายายอยากจะบวชจังเลยยายก็บอกว่าคุณเหรอจะบวชถ้าคุณจะบวชคุณต้องเรียนจบปริญญาก่อนถึงจะบวชให้ หลวงพ่อธัมมะฯก็เข้ามหาวิทยาลัยเกษตรได้หลวงพ่อธัมมะฯ ก็ไปเอาหลวงพ่อทัตตะฯ มาอีกคนหนึ่งหลวงพ่อทัตตะฯ ก็โอ้โฮ...วิชาเดียรัจฉาน นี่เรื่องจริงนะวิชาเดียรัจฉานเต็มตัวหมดเลยกว่าจะห้ำหั่นสององค์นี่ลงสองคนนี่ได้เกือบตาย” คุณยายกล่าว  
        ต่อมาเมื่อท่านไชยบูรณ์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วก็เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งทำให้ท่านศึกษาธรรมะที่ละเอียดลึกซึ่งและได้รับการฝึกฝนอบรมจากคุณยายอย่างดีเยี่ยม เมื่อรวบรวมคณะศิษย์ได้กลุ่มหนึ่งแล้วท่านก็ปรารถนาจะขยายวิชาธรรมกายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง ผู้เป็นหนึ่งไม่มีสอง

      “ยายก็คิดว่าเราต้องหาแผ่นดินซักแห่ง ยายก็คิดได้ให้คนไปขอแผ่นดิน ขอ 50 ไร่ เขายกให้หมดผืนเลยจ๊ะ ยายก็ส่งหลวงพ่อทัตตะฯ เนี่ยมาก่อนมาเฝ้าแผ่นดินนี่ไว้ พอวันเสาร์ยายก็ขึ้นรถมาทุ่งนาเนี่ย ทุกเสาร์ ทุกเสาร์ เป็นทุ่งนานะ สร้างวัดใหม่ๆ เป็นทุ่งนาเลย ไม่มีอะไรเลยเกือบตายกว่าจะเอาวัดลง  พอจะสร้างวัดได้เหนื่อยจังเลย ยายนี่เหนื่อยจังเลยจนเป็นโรคขาดอาหาร สมัยแรกๆนะ เช้ามากินข้าวแล้ว ต้องนั่งธรรมะ ถึง 5 โมงกลางวัน พอ 5 โมงกลางวันแล้วทำไง! ลงช่วยเขาปลูกต้นไม้ 5 โมงเย็นก็อาบน้ำอาบท่าขึ้นมานั่งธรรมะไปถึง 4 ทุ่มถึงจะได้นอน สมัยนั่นคนเขาไม่ได้ศรัทธาพระยายเลย เขาศรัทธายายมาก ยายก็ไปบอกบุญคนนั้น บอกบุญคนนี้ให้เขามาช่วย มาช่วยทางสร้างกุฏิบ้างมาช่วย สร้างครัวบ้างแล้วก็วางแผนไม่ให้พระเราออกบิณฑบาต  พระในวัดนี่นะมาใหม่ๆนะไม่ให้ออกบิณฑบาตจะหุงข้าวเลี้ยงเอง  ทำมาอยู่มาอยู่มายายเหนื่อยมากๆเข้า ยายก็ไม่มีแรงเดินไม่ไหวแล้วเขาก็เอาพวกหมอจุฬามาตรวจเขาบอกไม่มีโรคอะไร โรคขาดอาหาร ยายนะทำงานหนักมามากที่สุด” คุณยายกล่าว

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์  ขนนกยูง

        ด้วยดวงใจที่เด็ดเดี่ยวกล้าแกร่งกว่าเพชรด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของยายที่ได้วางกฎระเบียบต่างๆในการบริหารวัดช่วยปูพื้นฐานให้หมู่คณะเป็นปึกแผ่นและคอยให้กำลังใจแก่ศิษย์มาโดยตลอดทำให้ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาเป็นวัดพระธรรมกายที่มีระบบระเบียบงดงามยิ่งเป็นศรีสง่าแห่งพระพุทธศาสนาและเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ชาวโลกทั้งหลาย
http://peaceinmind1.blogspot.com/2016/03/un.html
 ขอบคุณข้อมูลจาก http://goo.gl/V6OmwG